รีวิวหนัง “Extraction 2 คนระห่ำภารกิจเดือด 2” ยังเท่ไม่เปลี่ยน..บู๊ดุเดือดไม่แผ่ว

“Extraction 2 คนระห่ำภารกิจเดือด 2” เป็นการกลับมาอย่างดุเดือดอีกครั้งของหนังแอคชั่นบ็อกซ์บัสเตอร์ที่เคยประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม เมื่อปี 2020 ที่ผ่านมา หนังที่เคยทำให้โลเคชั่นเมืองราชบุรีเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก และกลับมาครั้งนี้เป็นการสานต่อลมหายใจอีกครั้ง ที่หมายมั้นว่าอาจจะเป็นเฟรนไชส์หนังเรื่องใหม่ให้กับทางเน็ตฟลิกซ์ได้ แต่มันจะมีศักยภาพที่เดือดดาลได้เทียบเท่ากับที่เคยทำเอาไว้หรือเปล่า

สำหรับใน Extraction 2 คนระห่ำภารกิจเดือด 2 นั้น ได้ เล่าเรื่องต่อจากเหตุการณ์เมื่อภาคที่แล้ว หลังจากเกือบเอาชีวิตไม่รอด เรค ก็ได้กลับมาในบทบาททหารรับจ้างตลาดมืดชาวออสเตรเลีย พร้อมกับรับภารกิจเสี่ยงตายครั้งใหม่ ในการเข้าช่วยเหลือครอบครัวที่ถูกจับไปทารุณโดยแก๊งอาชญากรชาวจอร์เจียสุดโหดจากคุกที่พวกเขาโดนคุมขัง และนี่คือภารกิจที่ไม่อาจจะมีใครคาดเดาได้

กลับมาในภาคนี้ก็ยังคงมาพร้อมกับทีมผู้สร้างแทบจะชุดเดิม ไม่ว่าจะเป็น “แซม ฮาร์เกรฟ” ที่กลับมาสานต่องานกำกับของเขาอีกครั้ง และเขาก็รู้ดีว่าแฟนหนังต้องหาดูอะไรและอรรถรสแบบไหน นั่นจึงเป็นจุดที่เขาสามารถตอบโจทย์แฟน ๆ ออกมาได้ค่อนข้างดี ด้วยวิสัยทัศน์ในการอัดแน่นด้วยฉากแอคชั่นบู๊ล่าระห่ำ ยิ่งกว่าระเบิดภูเขาเผากระท่อมกันเลยทีเดียว

แล้วหนังก็ยังคงได้ “โจ รุสโซ” กลับมาเขึยนบทหนังในภาคนี้อีกเช่นเคย แน่นอนว่างานแอคชั่นแบบล้างผลาญไปทั้งเมืองอะไรแบบนี้เป็นแนวถนัดของเขาอยู่แล้ว ต้องยอมรับว่า Extraction 2 ยังคงค่อนข้างมีเส้นเรื่องที่หนักแน่นและแข็งแรงดี แม้ว่ามันจะยังดำเนินไปตามทางด้วยสูตรสำเร็จแบบพื้นฐานที่เราอาจจะไม่ได้รู้สึกแปลกใหม่อะไรเท่าไหร่ แต่โชคดีที่หนังยังมีองค์ประกอบอื่นมาช่วยปลุกพลังหนังขึ้นมาได้

นี่คือหนัง 2 ชั่วโมงที่จะสะใจคอหนังแอคชั่นโดยแท้ เพราะหนังใส่ฉากบู๊แบบเดือด ๆ เข้ามาเกือบจะร้อยละ 70 ของหนังทั้งเรื่องก็ว่าได้ กลายเป็นหนังที่พูดน้อยต่อยหนักตามคอนเซ็ปต์ และฉากแอคชั่นต่าง ๆ ก็มีการใส่จังหวะและลำดับไล่เรียงเข้ามาได้อย่างถึงใจถึงอารมณ์ แม้ว่าหนังบู๊เทคนิคลองเทคจะไม่ได้เป็นอะไรที่สดใหม่ในวงการอีกแล้ว แต่ Extraction 2 ก็ยังใช้เทคนิคและใส่อารมณ์ความมันส์เข้ามาได้แบบสุดติ่ง

โดยส่วนตัวรู้สึกประทับใจฉากลองเทคที่จอร์เจียในช่วงต้นของหนัง ที่เต็มไปด้วยความโกลาหลและมุมภาพที่ชวนลุ้นระทึกแบบต่อเนื่อง แม้ว่าเราจะเคยเห็นอะไรแบบนี้มาบ้างแล้วก็ตาม แต่ยังไงเทคนิคนี้ก็ยังเวิร์กดี เมื่อหนังหยิบเอามาใช้ เพราะงานออกแบบฉากแอคชั่นต่าง ๆ ที่เป็นมืออาชีพ และสามารถรองรับไปกับสตอรี่ของบทหนังได้อยู่

ทีมนักแสดงถือว่าเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่ช่วยตัวหนังเอาไว้ได้ค่อนข้างมาก แม้ว่าตัวยืนโรงหลัก ๆ ก็ยังคงเป็น “คริส เฮมสเวิร์ธ” และบทบาทที่เขารับก็แทบจะไม่ได้แปลกแตกต่างไปจากเดิมอะไรเลย แต่หนังก็พยายามใส่มิติและสร้างเสน่ห์ให้กับคาแรกเตอร์ที่ชัดเจนขึ้นกว่าภาคที่แล้ว ถึงมันจะมีทั้งสำเร็จบ้างและยังล้มเหลวอยู่บ้าง แต่กระนั้นคริสก็เป็นตัวยืนพื้นในการนำตัวละครต่าง ๆ ออกมาได้อย่างจัดเต็ม

หากว่าคุณเป็นแฟนหนังกับซีรีส์ของพี่น้องรุสโซ มันก็อาจจะรู้สึกจำเจไปหน่อย ๆ เพราะแนวหนังและทิศทางต่าง ๆ ของหนังเรื่องนี้ก็แทบจะคล้ายกับผลงานก่อน ๆ ของพวกเขาที่ได้ร่วมกันสร้างสรรค์ ทั้งโทนเรื่องและบรรยากาศต่าง ๆ ไม่ค่อยมีอะไรต่าง เพียงแต่จังหวะบู๊ของหนังเรื่องนี้ยังคงโดดเด่นไม่เป็นรองส่วนไหนอีกเช่นเคย และนั่นก็ถือว่าเป็นองค์ประกอบที่หนังรู้จักตัวเองและตอบโจทย์ผู้ชมได้ตรงประเด็นดี

ดังนั้นในภาพรวมแล้ว Extraction 2 อาจจะเป็นภาคต่อที่มันส์หยด กับจังหวะฉากแอคชั่นที่แทบจะจิกเท้าดูไปด้วย หนังตอบโจทยความเป็นหนังแอคชั่นที่ผู้ชมต้องการได้ดี คริม เฮมสเวิร์ธ ก็ยังกลับมารับหน้าที่เดิมของเขาได้ดีตามมาตรฐานเช่นกัน นอกจากนี้ยังต้องขอบคุณเส้นเรื่องที่หนักแน่นดี ทำให้หนังเรื่องนี้รอดได้อย่างหวุดหวิด เพราะเอาเข้าจริง ๆ หนังก็แทบไม่มีอะไรแปลกใหม่ เน้นบู๊มันส์ลูกเดียว ก็มีทั้งประทับใจและยังรู้สึกเฉย ๆ ปะปนกันไปอย่างบอกไม่ถูก

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง Extraction 2 คนระห่ำภารกิจเดือด 2

ประเภท: แอคชั่น / ระทึกขวัญ / ผจญภัย
ผู้กำกับ: แซม ฮาร์เกรฟ
นำแสดงโดย: คริส เฮมสเวิร์ธ, โกลชิฟเตห์ ฟาราฮานี, อดัม เบสซาม ดาเนียล แบร์นฮาร์ด
ความยาว: 123 นาที
กำหนดฉายในไทย: 16 มิถุนายน 2023 (ที่ Netflix)
Movie.TrueID METRIC: Extraction 2 คนระห่ำภารกิจเดือด 2

ภาพรวม
✰✰✰ (7/10)
การเล่าเรื่อง
✰✰✰ (7/10)
การแสดง
✰✰✰ (7/10)
เทคนิคงานสร้าง
✰✰✰ (7/10)
บทภาพยนตร์
✰✰✰✰ (6/10)