ประธานาธิบดี Joko Widodo ของอินโดนีเซียได้เรียกร้องให้ประเทศที่ร่ำรวยกว่าแบ่งปันวัคซีนของพวกเขากับคนจนในการสัมภาษณ์พิเศษกับ BBCนายวิโดโดกล่าวว่า "ไม่ควรเป็นเพียงไม่กี่ประเทศที่ได้รับวัคซีนทั้งหมด และบางประเทศได้รับเพียงเล็กน้อย"เขาพูดก่อนเยือนการประชุม G20 และ COP26 ซึ่งเขาจะได้พบกับผู้นำระดับโลกคนอื่นๆอินโดนีเซียเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดใหญ่ของโควิดมากที่สุดประธานาธิบดี Jokowi ซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ยังได้กล่าวถึงสาเหตุที่ควร

มีความเท่าเทียมด้านวัคซีนมากขึ้น เพื่อที่ประเทศกำลังพัฒนาและประเทศที่ยากจนกว่าจะไม่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังในการระบาดใหญ่นี้“ทุกคนช่วยเหลือแล้ว แต่ในความเห็นของผม ยังไม่เพียงพอ” เขากล่าวในการให้สัมภาษณ์เสมือนจริงจากทำเนียบประธานาธิบดีอินโดนีเซียในกรุงจาการ์ตา

“ในยามวิกฤตนี้ ประเทศที่พัฒนาแล้วจำเป็นต้องทำมากขึ้นในการช่วยเหลือประเทศยากจนให้ได้รับวัคซีน เพื่อที่เราจะสามารถเอาชนะโรคระบาดนี้ไปด้วยกัน”ความคิดเห็นของนายวิโดโดมีขึ้นในขณะที่

อินโดนีเซียพยายามฟื้นตัวจากความหายนะของโรคระบาด ที่จุดสูงสุด ประเทศอย่างเป็นทางการบันทึกมากกว่า 50,000 รายต่อวัน แต่ตัวเลขจริงอาจสูงขึ้น ข้อมูลของรัฐบาลระบุว่ามีผู้เสียชีวิตเกือบ 150,000 รายผู้คนเสียชีวิตในบ้านของพวกเขา หอบหายใจเมื่อเสบียงออกซิเจนหมดทั่วทั้งหมู่เกาะ ผู้ป่วยถูกละทิ้งจากโรงพยาบาลที่ล้นและพื้นที่งานศพไม่มีที่ว่างสำหรับคนตายตายอย่างโดดเดี่ยวในการต่อสู้ที่น่ากลัวของอินโดนีเซียกับ Covid-19อินโดฯ หวั่นกลัวไวรัสระบาดความสำเร็จของวัคซีนของจีนในเอเชียลดลง

หรือไม่?สหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศกล่าวว่าประเทศกำลัง "สั่นคลอนจากภัยพิบัติ Covid-19"แต่การบริหารของนายวิโดโดในขั้นต้นมองข้ามโรคนี้ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข Terawan Agus Putranto กล่าวว่าประเทศนี้จะได้รับการยกเว้นจากไวรัสเพราะ "คำอธิษฐานทั้งหมด"ในการให้สัมภาษณ์ เขายอมรับความผิดพลาดที่ฝ่ายบริหารของเขาทำในการจัดการโรคระบาด โดยกล่าวว่าเป็นเพราะขาดโครงสร้างพื้นฐานด้านการดูแลสุขภาพในประเทศ

“โรงพยาบาลของเรา สิ่งอำนวยความสะดวกของเราเต็มและไม่สามารถรองรับน้ำหนักบรรทุกได้” เขา

กล่าว “และนั่นทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก”คำบรรยายสื่อโจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย บอกกับบีบีซีว่า 'โรงพยาบาลของเราไม่สามารถรับมือกับโรคระบาดนี้ได้'สถานการณ์โควิดดีขึ้นตั้งแต่นั้นมา ทั้งผู้เสียชีวิตและผู้ป่วยลดลง ตามข้อมูลของรัฐบาลการฉีดวัคซีนก็ได้รับเช่นกัน ข้อมูลล่าสุดจากธนาคารโลกระบุว่า อินโดนีเซียให้วัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดสในประเทศ โดยเกือบ 30% ของประชากรทั้งหมดได้รับวัคซีนครบถ้วน ไม่ใช่เรื่องง่ายในหมู่เกาะขนาดใหญ่แต่ในขณะที่เขตเมืองอย่างจาการ์ตามี

อัตราการฉีดวัคซีนในระดับสูง แต่พื้นที่ชนบทกลับเข้าถึงได้ยากกว่า“ความแตกต่างระหว่างสิ่งอำนวยความสะดวกนั้นใหญ่มาก [ระหว่างพื้นที่ชนบทและเขตเมือง] นี่คือสิ่งที่เราต้องปฏิรูป” นายวิโดโดกล่าว “ตัวอย่างเช่น ไม่มีห้องไอซียูในโรงพยาบาลบางแห่ง เราจำเป็นต้องแก้ไขและซื้ออุปกรณ์และเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้ให้พร้อมเพื่อให้เราสามารถทำให้มันดีขึ้นได้”แต่นักวิจารณ์กล่าวว่าปัญหาไม่ใช่แค่การขาดเงินลงทุนในการดูแลสุขภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นการไม่เตรียมความพร้อมจากรัฐบาลที่นำไปสู่การเสียชีวิตนับแสนคนเมื่อพวกเขาสามารถได้รับการช่วยเหลือ

ในจำนวนนั้น เจ้าหน้าที่สาธารณสุขซึ่งได้รับการฉีดวัคซีนโดยใช้วัคซีนชิโนวัคของจีน ซึ่งเป็นสิ่งที่อินโดนีเซียใช้เป็นครั้งแรกในความพยายามฉีดวัคซีนให้กับประชากรของประเทศ

ต่อมาทางการได้เพิ่มวัคซีนอื่นๆ ลงในส่วนผสม และสามารถจัดหาเสบียงเพิ่มเติมได้ แต่ความล่าช้าในการให้วัคซีนแก่ประชากรจำนวนมหาศาลทำให้ประเทศต้องสูญเสียอย่างมากมาย

นั่นคือเหตุผลที่นายวิโดโดกำลังผลักดันให้ประเทศกำลังพัฒนาได้รับอนุญาตให้จัดตั้งโรงงานผลิตวัคซีน ซึ่งเป็นข้อเสนอที่เขากำลังนำเข้าร่วมการประชุม G20 ซึ่งเขาจะได้พบกับเพื่อนร่วมงานทั่วโลก