“ปวดท้องด้านซ้ายล่าง” เป็นเพราะอะไร?
“ปวดท้องด้านซ้ายล่าง” เป็นเพราะอะไร? GedGoodLife จึงขอนำคำถามนี้มาขยายให้กระจ่างชัดขึ้น มาติดตามกันได้เลย
ทำความรู้จัก อวัยวะในช่องท้อง
ในทางการแพทย์ หน้าท้อง อาจแบ่งออกเป็น 9 ส่วน ซึ่งแต่ละส่วนจะมีอวัยวะที่ต่างกันไป
ใต้ชายโครงขวา (Right Hypochondriac)
ส่วนลิ้นปี่ หรือส่วนยอดอก (Epigastric)
ส่วนใต้ชายโครงซ้าย (Left Hypochondriac)
ส่วนเอวขวา (Right Lumbar)
ส่วนสะดือ (Umbilical)
ส่วนเอวซ้าย (Left Lumbar)
ส่วนท้องน้อยขวา (Right Inguinal)
ท้องน้อยส่วนกลาง (Hypogastric)
ท้องน้อยซ้าย (Left Inguinal)
อาการนิ่วในท่อไต
– ปวดรุนแรงเป็นช่วง ๆ บริเวณข้างลำตัวและหลัง
– บางครั้งอาจปวดช่องท้องด้านล่างลงไปจนถึงขาหนีบ
– ปวดขณะปัสสาวะ ปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะบ่อย น้ำปัสสาวะน้อยผิดปกติ
– ปัสสาวะมีเลือดปน มีสีน้ำตาลหรือสีชมพู
– คลื่นไส้ อาเจียน
– มีไข้ หนาวสั่น
– อาการปวดท้องอาจเป็น ๆ หาย ๆ แต่ถ้านิ่วยังไม่หลุดออก ก็ปวดได้เรื่อย ๆ
วิธีรักษานิ่วในท่อไต
– ถ้าพบว่าเป็นนิ่วในท่อไต แพทย์จะให้ยากลุ่มแอนตี้สปาสโมดิก กินบรรเทาอาการปวดท้อง แล้วนัดให้มาตรวจซ้ำภายใน 1-2 สัปดาห์
– ถ้าหากก้อนนิ่วมีขนาดใหญ่ ไม่สามารถหลุดออกมาได้เอง อาจต้องรักษาด้วยการผ่าตัด หรือใช้เครื่องสลายนิ่ว
2. ปีกมดลูกอักเสบ (Salpingitis)
ปีกมดลูกอักเสบส่วนใหญ่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่างหนึ่ง เชื้อโรคที่พบบ่อยคือ เชื้อหนองใน รองลงมาคือเชื้อคลามัยเดีย ซึ่งอาการที่พบ คือ อาการปวดท้องน้อย ตกขาว
สาเหตุปีกมดลูกอักเสบ
– ติดเชื้อจากการสวนล้างช่องคลอด
– เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ จากเชื้อหนองใน และเชื้อคลามัยเดีย
– เกิดจากการทำแท้งที่ไม่สะอาด และมีเชื้อโรคแพร่กระจายเข้าในมดลูกและปีกมดลูก
อาการปีกมดลูกอักเสบ
– มีไข้สูง หนาวสั่น
– ปวดท้องน้อยทั้งสองข้าง หรือ ข้างใดข้างหนึ่ง
– ตกขาวออกเป็นหนอง มีกลิ่นเหม็น
– อาจมีอาการปวดหลัง คลื่นไส้ อาเจียน
– อาจมีประจำเดือนออกมาก และมีกลิ่นเหม็นในรายที่เกิดจากการติดเชื้อหนองใน
– อาจมีอาการขัดเบา ปัสสาวะปวดแสบขัดร่วมด้วย

วิธีรักษาปีกมดลูกอักเสบ
ถ้าตรวจแล้วว่ามีอาการติดเชื้อ ปีกมดลูกอักเสบ อาการไม่มาก แพทย์ก็จะให้ยาปฏิชีวนะชนิดกิน แต่ถ้าติดเชื้อรุนแรง หรือมีอาการปวดมาก อาจจะต้องได้รับยาปฏิชีวนะชนิดยาฉีด
ปวดท้องด้านซ้ายล่าง ควรไปหาหมอเมื่อไหร่?
มีอาการปวดรุนแรง
กดหรือแตะถูกเจ็บ
หรือหน้ามืดเป็นลม
มีไข้สูง
กินยาบรรเทาปวดแล้วไม่ทุเลา
อาการปวดท้อง อาจเป็นอาการที่เราเจอกันได้บ่อย ๆ หลายครั้งเป็นอาการปวดท้องทั่วไป ท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย ที่แค่กิน ยาลดกรด ก็หายได้ แต่อาการปวดท้องบางอย่าง อาจจะเป็นสัญญาณเตือนของความผิดปกติภายใน ดังนั้นควรสังเกตตัวเอง ถ้าหากกินยาแล้วไม่หายปวด อาจจะต้องไปพบแพทย์ต่อไป
ขอบคุณแหล่งที่มา : sanook.com
ติดตามข่าวสาร ได้ที่ : thaigoodherbal.com