13 หุ้น Deep Value!!
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 25 ต.ค.65 ปิดที่ 1,600.66 จุด เพิ่มขึ้น 9.34 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 64,622.51 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 2,274.69 ล้านบาท
หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด KBANK ปิด 141.50 บาท ลบ 4.50 บาท, DELTA ปิด 666 บาท บวก 40 บาท, EA ปิด 96.25 บาท บวก 0.75 บาท, BBL ปิด 144.50 บาท บวก 2.50 บาท, PTT ปิด 35 บาท บวก 0.25 บาท
ฝ่ายวิจัย บล.เอเซียพลัส ออกบทวิเคราะห์ระบุว่า ช่วงที่ผ่านมา SET Index ถูกปัจจัยภายนอกกดดันจนล่าสุด PBV ลดลงมาเหลือ 1.59 เท่า (ช่วงปลายปีที่แล้ว PBV อยู่ที่ 1.79 เท่า) ถือว่าภาพรวม Valuation ตลาดหุ้นไทยยังมีความน่าสนใจ ขณะปัจจุบันเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในช่วง Recovery แตกต่างจากประเทศอื่นๆที่ยังมีความกังวล Recession สูง
ลักษณะดังกล่าวนี้ น่าจะพอมีหุ้น Deep Value ที่น่าสะสม เพื่อเป็นเกราะป้องกันความผันผวนจากปัจจัยภายนอก และหวังผลตอบแทนในระยะกลางถึงยาวได้ ฝ่ายวิจัยฯ จึงวิเคราะห์เชิงปริมาณ
โดยการทดสอบหาผลตอบแทน หุ้นช่วงปี 64 ในหุ้น Deep Value ที่มี PBV ช่วงปลายปี 63 ต่ำ 1 เท่า และมี ROE สูงขึ้นและเป็นบวกในปี 64
พบว่ามีหุ้นที่ผ่านเงื่อนไขทั้งสิ้น 119 บริษัท และภาพรวมให้ผลตอบแทนเฉลี่ยในปี 64 (Median) สูงถึง 57% ซึ่งสูงกว่า SET Index ที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 14.4% แสดงให้เห็นว่าในช่วงที่ผ่านมา หุ้น Deep Value มีโอกาสให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะกลางถึงยาว และยังมีโอกาสชนะตลาดได้
จากผลลัพธ์ดังกล่าว บวกกับปัจจุบัน SET Index
ที่ย่อตัวลงมาจนมี PBV ที่เกือบจะอยู่ในระดับต่ำสุดของปี ฝ่ายวิจัยฯ จึงทำการค้นหา หุ้น Deep Value ณ ปัจจุบัน โดยผ่านเงื่อนไขต่างๆ ดังนี้ 1.เป็นหุ้นที่มี PBV22F ย่อตัวลง
และเกิดสัญญาณ Bullish Divergence กับ ROE23F ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 2.ราคาย่อตัวจน PBV22F ต่ำหรือใกล้เคียง 1 เท่า 3.แนวโน้ม ROE23F เป็นบวก และเพิ่มสูงขึ้น 4.ฝ่าย วิจัยฯ แนะนำ “ซื้อ” มี Upside
ได้ผลลัพธ์ 13 หุ้น Deep Value ที่น่าสะสม RATCH-SC-QH-CPF-STEC-NWR-SCB-KBANK-KSL-SCC-BBL-KTB-SAT
โดยจากรายชื่อ 13 หุ้นนี้ ถือเป็นกลุ่มหุ้นที่น่าสะสมหวังผลในระยะกลาง-ยาว คาดว่าจะมี Safety Margin ในเชิงพื้นฐาน ช่วยป้องกันความผันผวนของตลาดได้ดี พร้อมกับแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่องในปีหน้า ช่วยผลักดันให้ราคามีโอกาสขยับขึ้นได้ในระยะถัดไป.
ขอบคุณแหล่งที่มา : thairath.co.th
ติดตามข่าวสารได้ที่ have-a-look.net