มหาดไทย ชวนสวมผ้าไทย ร่วมงาน “ลอยกระทง” 65 ภายใต้แนวคิด “ผ้าไทยใส่ให้สนุก”
มหาดไทย ชวนสวมใส่ผ้าไทยร่วมงานลอยกระทง ภายใต้แนวคิด “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ประสานตำรวจ ตรวจเข้ม เฝ้าระวังการกระทำความผิดทุกรูปแบบ ควบคู่กับการป้องกันภัย
วันที่ 31 ต.ค.65 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึง การจัดกิจกรรมเทศกาลวันลอยกระทงในปีนี้ ซึ่งตรงกับวันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน 2565 ว่า กระทรวงมหาดไทย แจ้งให้ทุกจังหวัดเชิญชวนให้ผู้เข้าร่วมงานกิจกรรมสวมใส่ผ้าไทยภายใต้แนวคิด “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” มาร่วมกิจกรรมวันลอยกระทงในรูปแบบ “สืบสานวิถีไทย ใส่ใจความปลอดภัย ห่างไกลอบายมุข” พร้อมทั้งสั่งการให้เฝ้าระวังการกระทำความผิดทุกรูปแบบ ทั้งในสถานบริการ สถานที่ประกอบธุรกิจโรงแรม สถานที่จัดงาน และสถานที่อื่นๆ การควบคุมกวดขันในเรื่อง อาวุธปืน วัตถุระเบิด ยาเสพติด และการละเมิดกฎหมายที่อาจก่อให้เกิดภัยสังคม ความเดือดร้อนรำคาญ หรืออาจขัดต่อภาพลักษณ์ และวัฒนธรรมอันดีของประเทศไทย
รวมทั้งเพิ่มมาตรการทางด้านปกครอง มาตรการป้องกันปัญหาอัคคีภัยในสถานบริการ และมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 รวมถึงมาตรการควบคุมการขายและบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ ยังได้ขอความร่วมมือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บูรณาการเพิ่มความเข้นข้นในการควบคุมสถานบริการ หรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการอีกด้วย
นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่อว่า สำหรับมาตรการที่กระทรวงมหาดไทย สั่งการให้ทุกจังหวัดดำเนินการ มี 4 เรื่อง คือ
1. ให้ทุกจังหวัดและอำเภอ จัดชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว ตรวจตรา และเข้มงวดกวดขันผู้รับอนุญาตตั้งสถานบริการ ผู้ประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม รวมถึงผู้ที่จัดกิจกรรมประเพณีลอยกระทง ให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการป้องกันไม่ให้มีการพกพาอาวุธ วัตถุระเบิด และยาเสพติด เข้าไปในสถานที่จัดงาน และการป้องกันไม่ให้มีการกระทำเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ การค้าประเวณี และความผิดเกี่ยวกับเพศในพื้นที่
2. รณรงค์ให้จัดกิจกรรมประเพณีลอยกระทงในรูปแบบ “สืบสานวิถีไทย ใส่ใจความปลอดภัย ห่างไกลอบายมุข” เพื่อให้เป็นกิจกรรมที่ปลอดสุราและปลอดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ รณรงค์ให้ผู้เข้าร่วมงานกิจกรรมสวมใส่ผ้าไทย ภายใต้แนวคิด “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” และขอความร่วมมือผู้เข้าร่วมกิจกรรมแต่งกายให้มิดชิดโดยคำนึงถึงกาลเทศะ
3. ให้แจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ตรวจสอบระบบความปลอดภัย และระบบป้องกัน อัคคีภัยของอาคารที่ใช้เป็นสถานบริการ ร้านอาหาร โรงแรม สถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรมในพื้นที่ หรือสถานที่จัดกิจกรรมงานเทศกาลวันลอยกระทง และ 4. ให้ทุกจังหวัดประชาสัมพันธ์ให้ผู้ดำเนินกิจการสถานบริการ หรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการ ในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ โรงแรม และสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ และมาตรการด้านสุขลักษณะป้องกันความเสี่ยงจากโรคโควิด-19 เพื่อป้องกันมีให้มีการแพร่ระบาดของโรคจากการใช้บริการ
นอกจากนี้ กระทรวงมหาดไทยยังได้ประสานความร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอความร่วมมือให้เข้มงวดกวดขันสถานบริการ หรือ สถานประกอบการ ที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการให้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. 2509 คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 22/2558 ลงวันที่ 26 กรกฎาคม 2558 และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม หากเกิดอันตราย หรือพบเห็นผู้มีพฤติกรรมที่อาจก่อให้เกิดภัยอันตรายแก่สังคมส่วนรวม ขอให้แจ้งเหตุ หรือแจ้งเบาะแสได้ที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ หรือที่โทรศัพท์สายด่วนต่างๆ อาทิ แจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายที่สายด่วน 191 แจ้งเบาะแสการกระทำผิด สายด่วน 1567 แจ้งเหตุนิรภัยต่างๆ ไฟไหม้ พลัดตกน้ำ สายด่วน ปภ. 1784 แจ้งเหตุรถโดยสาธารณะ 1584 หรือ แจ้งเหตุแพทย์ฉุกเฉิน โทร 1669 ซึ่งทุกสายโทรฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง.
ขอบคุณแหล่งที่มา : thairath.co.th
ติดตามข่าวสารได้ที่ have-a-look.net