NIA ทุ่มงบ 200 ลบ. หนุนผู้ประกอบการธุรกิจนวัตกรรม วางเป้าไม่น้อยกว่า 40 โครงการ
NIA ทุ่มงบกว่า 200 ล้านบาท สนับสนุนสตาร์ทอัพ และผู้ประกอบการธุรกิจนวัตกรรมไทย ผ่านโครงการ Thematic Innovation ตั้งเป้าไม่ต่ำกว่า 40 โครงการ คาดเกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 400 ล้านบาท
สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ทุ่มบประมาณกว่า 200 ล้านบาท สนับสนุนสตาร์ทอัพ และผู้ประกอบการธุรกิจนวัตกรรมไทย ผ่านโครงการนวัตกรรมแบบมุ่งเป้า (Thematic Innovation) ตั้งเป้าไม่ต่ำกว่า 40 โครงการ คาดจะเกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ไม่น้อยกว่า 400 ล้านบาท เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่หมุดหมายสำคัญของการเป็น “ประเทศแห่งนวัตกรรม”
NIA ทุ่มงบ 200 ลบ. หนุนผู้ประกอบการธุรกิจนวัตกรรม วางเป้าไม่น้อยกว่า 40 โครงการ
นายวิเชียร สุขสร้อย รองผู้อำนวยการด้านเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
SPONSORED
วิเชียร สุขสร้อย รองผู้อำนวยการด้านเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า NIA มีนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนสตาร์ทอัพ หรือผู้ประกอบการไทย ที่มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นเอง และมีขีดความสามารถแข่งขันได้ในระดับสากล เพื่อรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve) ซึ่งเป็นปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
อีกทั้งเพื่อเป็นการชักจูงบริษัทชั้นนำจากทั่วโลกให้มาลงทุนในประเทศไทย จึงได้สร้างโอกาสการพัฒนาธุรกิจนวัตกรรมด้วยการเชื่อมโยงเครือข่ายทั้งด้านเทคโนโลยี และการเงินผ่านกลไกการสนับสนุนโครงการนวัตกรรมแบบมุ่งเป้า (Thematic Innovation) ซึ่งดำเนินมากว่า 5 ปี เกิดเป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์การพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายมากกว่า 92 โครงการ ไม่ว่าจะเป็นด้านการแพทย์ การดูแลสุขภาพ เทคโนโลยีเกษตรและอาหาร ฯลฯ ด้วยเงินสนับสนุนกว่า 255 ล้านบาท และก่อให้เกิดมูลค่าประมาณ 530 ล้านบาท
สำหรับ โครงการนวัตกรรมแบบมุ่งเป้าที่ NIA ดำเนินการนั้น เป็นการสนับสนุนเงินทุนให้เปล่าสำหรับสตาร์ทอัพ หรือผู้ประกอบการที่สร้างสรรค์ผลงานนวัตกรรมใน 6 กลุ่มธุรกิจนวัตกรรมเป้าหมาย ได้แก่ อาหารมูลค่าสูงสำหรับส่งออก ความมั่นคงทางอาหาร เศรษฐกิจการหมุนเวียน และเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ พลังงานสะอาด ธุรกิจดิจิทัลที่ใช้เทคโนโลยีด้านปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์ และเทคโนโลยีโลกเสมือน หรือ ARI Tech และกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้าและเทคโนโลยีที่เกี่ยวเนื่อง
โดยในปีนี้ NIA ตั้งเป้าสนับสนุนไม่ต่ำกว่า 40 โครงการ ในวงเงินสูงสุดไม่เกินโครงการละ 5,000,000 บาท ครอบคลุมทั้งการพัฒนาต้นแบบนวัตกรรมและทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานของนวัตกรรมในสภาพแวดล้อมจริง คาดจะเกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ไม่น้อยกว่า 400 ล้านบาท
ผู้ประกอบการ หรือสตาร์ทอัพ ที่จะสมัครเข้าร่วมจะต้องมีคุณสมบัติ คือ เป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย และมีผู้ถือหุ้นเป็นสัญชาติไทยอย่างน้อยร้อยละ 51 ต้องเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในเทคโนโลยีหลักที่ใช้ในโครงการ หรือเป็นการขอใช้สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาได้ ต้องมีโมเดลธุรกิจและแผนการดำเนินธุรกิจที่ชัดเจน เพื่อรองรับการขยายผลโครงการอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถสำรองเงินเพื่อเบิกจ่ายเงินอุดหนุนย้อนหลังได้ รวมถึงนิดิบุคคล หรือกรรมการบริหารของนิติบุคคล มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมเป้าหมายไม่น้อยกว่า 3 ปี.
ขอบคุณแหล่งที่มา : thairath.co.th
ติดตามข่าวสารได้ที่ have-a-look.net