มุมมองโกลเบล็ก!!
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 26 ต.ค.65 ปิดที่ 1,596.46 จุด ลดลง 4.20 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 60,510.87 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 847.72 ล้านบาท
หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด DELTA ปิด 604 บาท ลบ 62 บาท, KBANK ปิด 141.50 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง, OR ปิด 24.70 บาท ลบ 1.05 บาท, TTB ปิด 1.38 บาท บวก 0.05 บาท, CPALL ปิด 59.50 บาท บวก 0.50 บาท
บล.โกลเบล็กประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ยังผันผวน Sideway เนื่องจากนโยบายการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบเชิงรุกของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เพื่อชะลอความร้อนแรงของเศรษฐกิจเริ่มเห็นผล โดยล่าสุดสหรัฐฯรายงานดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นปรับตัวลงสู่ระดับ 47.3 ในเดือน ต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน เนื่องจากการหดตัวของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน บ่งชี้ว่าภาคผลิตและภาคบริการชะลอตัว
ส่วน Fed Watch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่าการประชุมเฟดในวันที่ 13-14 ธ.ค.นี้ มีนักลงทุนราว 53.5% เท่านั้น ที่คาดว่า FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ลดลงจากเดิมที่เคยสูงถึง 75% อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามตัวเลข GDP 3Q65 (ประมาณการเบื้องต้น) ในสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิด
ปัจจัยในประเทศด้านการท่องเที่ยว ได้มีการเตรียมดันโครงการใหม่หนุนการใช้จ่ายปลายปีกระตุ้นเศรษฐกิจ เบื้องต้นมีความเป็นไปได้ที่จะมีโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 และคนละครึ่งเฟส 6 จะเข้า ครม.เร็วๆนี้ ให้กรอบการเคลื่อนไหวดัชนีที่ 1,570-1,620 จุด
ขณะที่ยังต้องจับตาปัจจัยทั้งในและต่างประเทศ ช่วงวันที่ 26-29 ต.ค.65 ไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมประจำปีรัฐสภาภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก ครั้งที่ 30 วันที่ 27-29 ต.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย จัดงาน BOT Digital Finance Conference 2022 วันที่ 28 ต.ค. และรายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
แนะนำกลยุทธ์การลงทุน หุ้นที่ได้ประโยชน์จากแนวโน้มที่ ครม.จะมีเสนอโครงการคนละครึ่งเฟส 6 และเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 เข้าสู่ที่ประชุม ได้แก่ TNP, KK, ERW, CENTEL, VRANDA, ASAP, SPA, AAV, BA และ AOT.
ขอบคุณแหล่งที่มา : thairath.co.th
ติดตามข่าวสารได้ที่ have-a-look.net