จาก นาดาว บางกอก น่าจะเข้าไปอยู่ในลิสต์เพลงโปรดในใจของทุกคนแล้ว รวมถึงเรื่องราวของ เต๋ (รับบทโดย บิวกิ้น-พุฒิพงศ์) และ โอ้เอ๋ว (รับบทโดย พีพี-กฤษฏ์) เด็กผู้ชายสองคนที่เติบโตมาในบรรยากาศของเมืองภูเก็ต เพื่อนสนิทที่ห่างหายจากกันไป จนได้กลับมาเจอกันอีกครั้งที่โรงเรียนสอนพิเศษภาษาจีนในช่วงเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย
เรื่องย่อ ซีรีส์ เรื่องใหม่ แปลรักฉันด้วยใจเธอ
ท่ามกลางบรรยากาศสายลมและแสงแดดของเมืองภูเก็ต เพื่อนสมัยเด็กที่ห่างหายกันไปหลายปีอย่าง “เต๋” (บิวกิ้น) และ “โอ้เอ๋ว” (พีพี) โคจรกลับมาเจอกันอีกครั้งที่โรงเรียนกวดวิชาภาษาจีน เพื่อเตรียมสอบแอด มิชชันเข้ามหาวิทยาลัย แต่ในเมื่อต่างฝ่ายต่างมุ่งมั่น จะสอบเข้าคณะนิเทศศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเดียวกัน เพื่อนรักที่เคยร่วมฝัน จึงกลับกลายมาเป็นคู่แข่งคนสำคัญ
เมื่อยิ่งสำคัญ ก็ยิ่งอยู่ในสายตา… การที่เต๋และโอ้เอ๋วได้กลับมาใกล้กันอีกครั้ง ทำให้ทั้งสองได้รู้จักกันและกันมากขึ้น จนได้นำพาไปสู่ความรู้สึกใหม่ ที่ต่างก็ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ในวันที่พวกเขายังเด็ก สนามสอบที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตเด็ก ม.6 ครั้งนี้ จึงมีทั้งความฝันและความผูกพันของเด็กหนุ่มสองคนเป็นเดิมพัน
รีวิว ซีรีส์ เรื่องใหม่
ช่วงวัยที่ถูกหยิบยกขึ้นมาเล่าของตัวละครหลักทั้งเต๋และโอ้เอ๋ว คือช่วงวัยหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญกับชีวิต คือการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ที่ทุกคนอาจเคยมีประสบการณ์ร่วมทั้งยุคเอ็นทรานซ์ O-NET A-NET GAT-PAT หรือแม้แต่ TCAS เราต้องนับมันเป็นช่วงวัยที่สำคัญที่จะขีดเส้นชีวิตทั้งชีวิตของเยาวชนประเทศนี้ และแน่นอนว่ามันเป็นหัวเชื้อสำคัญในการดำเนินเรื่องที่ดี ที่ทำให้เห็นจุดหมายของตัวละคร ปัญหากับสิ่งรอบข้าง ความเครียด หรือแม้แต่เรื่องความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนไปก็ตาม ซึ่งการหยิบเอาเรื่องการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของตัวละครมาเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราว ทำให้เราได้เห็นการแตกประเด็นต่างๆ ออกไปในสิ่งที่กรอบของสังคมกำลังกดทับเยาวชนอยู่อย่างค่อนข้างเห็นได้ชัด ทั้งเรื่องการศึกษาและเรื่องเพศที่เราจะเล่าภายหลัง
สิ่งที่น่าชื่นชมในหนังนอกเหนือจากแก่นเรื่องที่ไม่ได้ยากเกินเข้าใจแล้ว มาตรฐานของงานถ่ายทำ โปรดักชัน หรือการแสดงเองก็ตามล้วนแต่ขับเคี่ยวออกมาได้อย่างครบรส โดยเฉพาะการแสดงของสองนักแสดงนำทั้ง บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล และ พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร ที่มีเคมีที่ดีต่อกัน ขับเสน่ห์ให้กันและกันได้อย่างเป็นธรรมชาติ แต่อีกส่วนที่ต้องชื่นชมมากๆ คือการปรากฏตัวของ สไมล์-ภาลฎา ฐิตะวชิระ ในบท ตาล ที่เธอทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยมทุกครั้งที่โผล่ขึ้นมาบนจอ
ในส่วนของเพลงประกอบที่ส่งออกมาได้จังหวะและเข้ากับฉาก การตัดต่อที่กลมกลืน เรียกว่าละมุนเลยทีเดียว โลเคชัน ฉาก มุมกล้อง ทุกอย่างที่ประกอบกันมีความหมายที่แปลความออกมาได้หมด ส่งให้ซีรีส์มีความกลมและสวยงามจนรู้สึกได้เลยว่า ตัวละครเต๋กำลังเผชิญอยู่กับอะไร และบอกเราออกมาดัง ๆ ว่าความรักไม่ว่าจะเกิดขึ้นมาในรูปแบบใด มันสวยงามเสมอ อีกอย่างที่ต้องชมอย่างจริงจังเลยก็คือ การคุลมโทนของซีรีส์เรื่องนี้เป๊ะปัง ไม่กระเด็นออกไปไหน นอกจากการใช้ภาษาจีนเป็นโครงสร้างของบทแล้ว การใช้สี แดง เขียว น้ำเงินในซีรีส์ ยังเป็นสื่อสัญลักษณ์ของตัวละคร สร้างภาพจำและอารมณ์ร่วมให้อินมากขึ้นไปอีก
ในด้านโปรดักชันงานดีขอมอบให้เรื่องนี้ไปเลยค่ะ การเลือกใช้สีที่เข้มชัดอย่าง แดง เขียว น้ำเงิน แต่ยังคลุมโทนได้ไม่มีหลุด บ่งบอกว่าทีมโปดักชันทำงานละเอียดและใส่ใจมากขนาดไหน บวกกับการย้อมสีโทนอบอุ่น มันช่วยส่งความรู้สึกสับสนภายในใจได้อย่างชัดเจน เฟรมภาพแต่ละภาพมีองค์ประกอบที่ลงตัวสวยงามและซ่อนความหมายในทุก ๆ ภาพ สิ่งของที่ใช้ สี เรียกได้ว่ารายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่มีหลุด ถือเป็นการสื่อสารด้วยภาพที่ฉลาด
จุดเด่นและจุดอ่อนในซีรีส์
จุดเด่นคงหนีไม่พ้นในเรื่องของบทละเอียดและเป็นการสื่อสารที่สละสลวย ทั้งภาษาภาพ การเล่นสี สร้างภาพจำและดึงความรู้สึกให้เกิดอารมณ์ร่วมได้ง่าย ๆ
นักแสดงนำเข้าถึงบทบาท ส่งอินเนอร์ออกมาถึงคนดูได้อย่างตรงไปตรงมา การดำเนินเรื่องฉับไวและพาให้คนดูเดินตามเป็นเส้นตรงไปได้เรื่อย ๆ อย่างไม่มีเบื่อและถ้าบอกว่ารักแห่งสยามเป็นภาพยนตร์ในความทรงจำของใครหลายคน “แปลรักฉันด้วยใจเธอ” ก็จะเป็นซีรีส์ที่สร้างความทรงจำทำนองเดียวกันได้ไม่แพ้กัน แตกต่างกันตรงที่เรื่องนี้มีความเป็น Y สูงกว่าเท่านั้นเอง
จุดเด่นอีกจุดในซีรีส์เรื่องนี้คือการใช้ภาษาจีนเป็นโครงสร้างของบทเป็นอะไรที่คลาสสิกเอามาก ๆ ในทุก ๆ ฉากจะมีการสื่อสารด้วยภาษาภาพ ภาษาพูด กริยาอารมณ์ของตัวละครต่อกันเป็นฉาก ๆ เผยให้เห็นความสัมพันธ์ที่พัฒนาไปเรื่อย ๆ อย่างเป็นธรรมชาติและที่สำคัญ มันสวยงาม ทุกบทสนทนาของตัวละครมีความหมายเรียกว่าเราจะทิ้งคำพูดไหนไปแบบไม่สนใจไม่ได้เลย มันมีความหมายแฝงอยู่ในนั้นแทบจะทุกประโยค
ส่วนจุดอ่อนในซีรีส์จะเป็นการเล่าเรื่องในตอนแรก บทของตัวแสดงเด็กขาดความสมจริงในช่วงอายุไปสักหน่อย แต่ไม่ได้ทำให้ซีรีส์เสียอรรถรส
สรุป
แปลรักฉันด้วยใจเธอด้วย เป็นเรื่องราว Coming of Age ที่จริง ๆ กำลังเล่าเรื่องของตัวละครสองคนที่เขากำลังเติบโตไปในทิศทางที่เขาอยากจะเป็น ในระหว่างทางก็จะมีหลาย ๆ เหตุการณ์ที่จริง ๆ แล้วเราส่วนใหญ่ก็เคยผ่านสิ่งเหล่านี้มา หรือใครหลาย ๆ คนอาจจะยังไม่เคยผ่านมา แต่ก็จะได้เห็นแง่มุมของตัวละครที่กำลังก้าวข้ามเรื่องเพศหรืออะไรบางอย่าง ก็อยากฝากให้ติดตามกันคะแนนของเรื่องนี้ 9.5/10
I Told Sunset About You แปลรักฉันด้วยใจเธอเป็นซีรีส์แนวไหน
ตอบ เป็นซีรีส์ไทยแนวโรแมนติก ดราม่า
สามารถรับชมซีรีส์ I Told Sunset About You แปลรักฉันด้วยใจเธอ ผ่านช่องทางไหน
|