Investing.com -- ธนาคารกลางสหรัฐปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในวันพุธ และยืนยันการคาดการณ์ว่าจะมีการปรับขึ้นอีกครั้งในปีนี้ นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดได้ปฏิเสธอย่างหนักแน่นเกี่ยวกับว่าตลาดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปลายปีนี้ แม้ว่าตลาดจะสั่นคลอนก็ตาม ภาคการธนาคารคาดว่าจะเข้มงวดเงื่อนไขสินเชื่อเพื่อลดอัตราเงินเฟ้อ
Federal Open Market Committee หรือ FOMC ได้เพิ่ม อัตราดอกเบี้ยสุดท้าย เป็นช่วง 4.75% ถึง 5% จาก 4.5% เป็น 4.75% ก่อนหน้านี้
เป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 25 จุดพื้นฐานติดต่อกันเป็นครั้งที่ 2 นับตั้งแต่เฟดปรับลดการปรับขึ้นจาก 50 จุดพื้นฐานเมื่อต้นปีนี้ อย่างไรก็ตาม เฟดกล่าวว่า "คาดการณ์ว่าการบังคับใช้นโยบายเพิ่มเติมบางอย่างอาจเหมาะสมเพื่อให้บรรลุจุดยืนของนโยบายการเงินที่เข้มงวดเพียงพอที่จะทำให้อัตราเงินเฟ้อกลับมาอยู่ที่ 2% เมื่อเวลาผ่านไป"
เฟดคงการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยมาตรฐานไว้ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนธันวาคม โดยคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยสุดท้ายหรืออัตราสูงสุดจะอยู่ที่ 5.1%% ในปี 2023 โดยมีการแนะนำว่าจะมีการปรับขึ้นอีกอย่างน้อยหนึ่งครั้ง โดยก่อนการประชุมตลาดได้คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปลายปีนี้ แต่พาวเวลล์กล่าวปฏิเสธต่อแนวโน้มนั้น
“สมาชิก FOMC ไม่เห็นด้วยกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ มันไม่ใช่ความคาดหวังพื้นฐานของเรา” พาวเวลล์กล่าว
ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อ จะเป็นตัวบ่งบอกปฏิกิริยาของเฟดเป็นเวลาหลายเดือน เนื่องจากตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง แต่ความไม่มั่นคงล่าสุดในภาคการธนาคารได้ทำส่งผลกระทบต่อแผนการการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดและได้กระตุ้นความไม่แน่นอนอย่างมากเกี่ยวกับเส้นทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต
การปิดตัวลงของธนาคาร Silicon Valley และธนาคาร Signature ได้ทำให้เฟดต้องคิดใหม่กับนโยบายการเงิน โดยสมาชิกเรียนรู้ว่าเงื่อนไขสินเชื่อที่เข้มงวดมากขึ้นสามารถสนับสนุนเฟดในการต่อสู้กับเงินเฟ้อได้เช่นกัน
“ระบบธนาคารของสหรัฐฯ นั้นแข็งแกร่งและยืดหยุ่น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดมีแนวโน้มที่จะส่งผลให้สภาวะสินเชื่อเข้มงวดขึ้นสำหรับภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ และส่งผลกระ
https://disability-insurance-protection.com
|