มาทิลด้า เวิร์มวูด เป็นเด็กหญิงที่เปี่ยมไปด้วยความสนใจใฝ่รู้ ความฉลาดหลักแหลมและจินตนาการสุดบรรเจิด แล้วเธอก็มีพ่อแม่ที่แย่ที่สุดในโลกด้วย ขณะที่พ่อแม่ของเธอมัวแต่ดูรายการทีวีไร้สาระ และวางแผนหาเงินด้วยการต้มตุ๋นไปวันๆ เธอกลับชอบขลุกตัวอยู่กับการอ่านหนังสือที่เธอโปรดปราน พ่อแม่ของเธอเป็นคนเสียงดัง เห็นแก่ตัว และใจร้าย ส่วนเธอจะคอยเป็นผู้สังเกตการณ์อยู่เงียบๆ พร้อมคิดหาวิธีแผลงฤทธิ์ต่อต้านและแก้แค้นเล็กๆ น้อยๆ
เมื่อได้มาพบกับครูผู้เป็นแรงบันดาลใจให้เธออย่างครูฮันนี่ มาทิลด้าก็รู้สึกมีกำลังใจและเริ่มปลดปล่อยจินตนาการอันน่าอัศจรรย์ของเธอออกมา มาทิลด้าตื่นเต้นที่จะได้เข้าเรียนที่โรงเรียนครันเช็มฮอลล์ และต้องแปลกใจเมื่อได้รู้ว่าโรงเรียนแห่งนี้อยู่ภายใต้การปกครองที่กดขี่และโหดร้ายของครูทรันช์บูล ที่ทั้งตัวใหญ่และร้ายกาจ
นอกจากครูฮันนี่ที่แสนใจดีแล้ว ก็ยังมีบรรณารักษ์ผู้หลงใหลในเรื่องราวต่างๆ อย่างครูเฟลป์ส และเพื่อนใหม่ที่โรงเรียนของมาทิลด้าที่เปรียบเสมือนแสงสว่างท่ามกลางเงาแห่งความโหดร้าย ด้วยความรู้สึกอันเปี่ยมล้นที่จะผดุงความยุติธรรม มาทิลด้าจึงกล้าที่จะยืนหยัดต่อสู้เพื่อความถูกต้อง และสอนให้ครูทรันช์บูลได้รับบทเรียนที่เธอจะไม่มีวันลืม
ถึงแม้หน้าหนังอาจดูเหมือนหนังเด็กแต่เบื้องลึกก็แอบแฝงไปด้วยแง่คิดที่ค่อนข้างน่าหดหู่ชวนสงสาร ผ่านจินตนาการของเด็กที่ชีวิตในครอบครัวค่อนข้างขมขื่น อีกทั้งยังมีประเด็นการกดขี่ข่มเหงที่ชัดเจนตรงไปตรงมา การขาดอิสระทางความคิดของผู้เป็นเด็ก ซึ่งสะท้อนสังคมในปัจจุบันที่ผลักดันให้คนทุกเพศทุกวัยแสดงความคิดเห็นกันได้เต็มที่ จะเห็นได้เลยว่าเนื้อในของหนังเป็นเหมือนการปลดแอกแต่มาโทนของหนังเด็กคอมเมดี้ พอถูกนำเสนอออกมาเป็นหนังเด็กจึงทำให้บรรยากาศและอารมณ์ไม่ได้เข้มข้นจริงจังอะไรมากมายถึงขนาดนั้นแค่เป็นการแทรกประเด็นข้อชวนขบคิดเสียมากกว่า
โดยสรุปแล้วนั้น ถือว่า Matilda the Musicalฉบับนี้ทำออกมาได้น่าประทับใจทีเดียว หนังงานสร้างและการแสดงถือว่าตรงมาตรฐาน และรู้ดีว่าผู้ชมต้องการอะไร ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องราวที่ใคร ๆ คุ้นเคยและพอจะรู้จักดีอยู่แล้ว แต่ฉบับปรับปรุงนี้นำมาปรุงแต่งใหม่ที่ค่อนข้างใช้ได้ ใส่ทั้งประเด็นล้ำจินตนาการ โทนความดาร์กสลับสดใส และยังกล่าวการก้าวข้ามผ่านวัยของเด็ก รวมทั้งสอดแทรกปมสถาบันครอบครัวเข้าไปอีกด้วย
|