[x] ปิดหน้าต่างนี้
Powered by ATOMYMAXSITE 2.9
โรงเรียนบ้านกลาง นาแห้ว
ระบบสมาชิก
Username :
Password :
[ สมัครสมาชิก ] | [ ลืมรหัสผ่าน ]
สมาชิกทั้งหมด 3 คน
สมาชิกที่กำลังออนไลน์ 0 คน
เมนูหลัก
link banner
e-Learning

ข้อมูลผู้บริหาร
หมวดหมู่ blog
ค้นหาจาก google

 

  

   เว็บบอร์ด >> ห้องนั่งเล่น >>
3 สาวไทยเผยชีวิตในขุมนรก ถูกหลอกให้ค้ากาม  VIEW : 88    
โดย ปอนด์

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 653
ตอบแล้ว :
ระดับ : 20
Exp : 73%
ออฟไลน์ :
IP : xxx

 
เมื่อ : พฤหัสบดี ที่ 8 เดือน ธันวาคม พ.ศ.2565 เวลา 09:35:52    ปักหมุดและแบ่งปัน

3 สาวไทยเผยชีวิตในขุมนรก ถูกหลอกให้ค้ากามที่เมืองล็อกกิ่ง หนักสุดถึงขั้นบังคับเสพยา

3 สาวไทยเปิดใจ ช่วงชีวิตในขุมนรก หลังจากถูกหลอกไปทำงานที่เมืองล็อกกิ่ง ในเขตปกครองพิเศษพม่า สุดท้ายต้องขายบริการ หนักสุดถึงขั้นบังคับให้อดข้าว และเสพยา เพราะหลงเชื่อคนในเฟซบุ๊ก

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 29 พฤศจิกายน 2565 ในรายการ “เปิดปากกับภาคภูมิ” ทางไทยรัฐทีวีช่อง 32 ดำเนินรายการโดย นายภาคภูมิ พันธุ์สถิตย์ ได้พูดถึงกรณี 3 สาวไทยเผยชีวิตในขุมนรก ถูกหลอก-บังคับ-ทรมาน ค้ากามที่เมืองล็อกกิ่ง ในเขตปกครองพิเศษของว้าแดง ประเทศเมียนมา เพราะหลงเชื่อคนในเฟซบุ๊กชวนไปทำงาน

นางสาวบี ผู้เสียหาย อายุ 29 ปี เล่าว่า มีผู้หญิงชื่อน้ำซึ่งเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊ก ทักแชตมาหาชวนไปทำงานที่พม่า ในตอนแรกไม่บอกว่างานอะไร บอกเพียงว่ากลับมาไทยแล้ว หลังไปทำมา 3 เดือน ตนเองจึงถามว่าได้กี่บาท น้ำบอกว่ากลับมาได้ 7 แสนบาท ในตอนนั้นรู้สึกเพียงว่าได้เยอะ ทำไมถึงรีบกลับมา น้ำบอกเพียงกลับมาบวชและมาซื้อบ้าน

สั่งพักงานไม่มีกำหนด แพทย์หญิงด่าญาติคนไข้ รอผลสอบข้อเท็จจริง
สั่งพักงานไม่มีกำหนด แพทย์หญิงด่าญาติคนไข้ รอผลสอบข้อเท็จจริง
“เจ้าของธุรกิจโรงพิมพ์” เล่าถึงอดีตสินค้าที่เคยนิยมช่วงปีใหม่ แต่ปีนี้ยอดลดลง
“เจ้าของธุรกิจโรงพิมพ์” เล่าถึงอดีตสินค้าที่เคยนิยมช่วงปีใหม่ แต่ปีนี้ยอดลดลง
3 สาวไทยเผยชีวิตในขุมนรก ถูกหลอกให้ค้ากามที่เมืองล็อกกิ่ง หนักสุดถึงขั้นบังคับเสพยา
3 สาวไทยเผยชีวิตในขุมนรก ถูกหลอกให้ค้ากาม

ในขณะที่นางสาวเอ อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนกับบี เผยว่า เห็นว่าทำงานเมืองนอกได้เงินดี และไม่ใช่เงินพม่า เป็นเงินหยวน จึงตัดสินใจไปทำงานกันทั้ง 3 คน ต่อมาในวันที่ 21 กันยายน น้ำขับรถมารับทั้ง 3 คนที่หอพักใน จ.ชลบุรี ก่อนส่งที่สนามบินสุวรรณภูมิ มาลงเครื่องเชียงใหม่ และต้องนอนรอที่โรงแรมเชียงใหม่อีก 1 คืน

และวันถัดมาช่วงตี 5 มีรถกระบะคันสีขาวมารับจากโรงแรม ซึ่งเป็นรถกระบะขนแตงโม พาลงไปที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งแถวชายแดน จากนั้นชาวบ้านก็ไล่ลงรถ บอกว่ามีทหารมาตรวจ จะต้องใช้การเดินเลาะตีนเขาไป ในตอนนั้นเริ่มรู้สึกแปลกใจ อยากจะชวนกันกลับ เพราะเห็นระยะทางและไม่โอเค แต่ไม่สามารถกลับได้ เนื่องจากซิมใช้ไม่ได้ ติดต่อใครไม่ได้เลย ตอนนั้นมีกันอยู่แค่ 3 คน ใช้เวลาเดินทาง 5 คืน 6 วัน และต้องมีการเปลี่ยนรถที่ใช้เดินทางไปเรื่อยๆ คล้ายการขนแรงงานต่างด้าว ต้องแฝงตัวคละไปกับพวกพม่า จนไปถึงเมืองล็อกกิ่ง

คุณปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เผย พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตปกครองพิเศษ ไม่มีใครติดต่อได้ แม้จะอยู่ในประเทศเมียนมา แต่อยู่ในตะเข็บชายแดนที่ติดกับจีน คนที่เข้าไปเที่ยวเป็นคนจีนทั้งสิ้น มีทุกสิ่งทุกอย่างครบวงจร ทั้งกาสิโน ธุรกิจสีเทาอยู่ที่นั่นหมด แต่ไม่มีทางติดต่อกับไทยได้เลย ไม่มีถนน มีแต่ทางลูกรัง จากไทยเข้าเมียนมาต้องลักลอบเข้าไปเท่านั้น เป็นเศรษฐกิจพิเศษเฉพาะคนจีน

3 สาวไทยเผยชีวิตในขุมนรก ถูกหลอกให้ค้ากามที่เมืองล็อกกิ่ง หนักสุดถึงขั้นบังคับเสพยา
นางสาวเอ เล่าต่อว่า หลังจากลงรถที่โรงแรม มีผู้หญิงที่พูดภาษาไทยได้ เรียกตัวเองว่าเจ๊ พาขึ้นไปที่โรงแรม หลังจากนั้นให้เพื่อนทั้งสองคน คือบีและซี ไปอาบน้ำแต่งตัว พร้อมกับบอกว่า จะให้คนมาดูตัว ตอนนั้นตัวเองตกใจมาก เพราะน้ำเคยบอกไว้ว่าจะให้ทำงานเคทีวี คือการทำงานในร้านคาราโอเกะ เจ๊คนดังกล่าวมานั่งคุยกับตน ถามว่า น้ำบอกไหมค่าเดินทางเท่าไหร่

ตนจึงโชว์รายละเอียดแชตที่คุยกับน้ำให้ดู จากนั้นเจ๊อธิบายว่าจะต้องมีการเซ็นสัญญา 3 เดือน และต้องมีค่าใช้จ่ายจากการหาร้านลงทำงานให้ และต้องเสียค่าเดินทางอีก 90,000 บาท ตอนนั้นตกใจมากไม่รู้ว่าค่าอะไร และเริ่มสงสัยว่างานที่ทำ ไม่ใช่คาราโอเกะอย่างแน่นอน แถมเจ๊ยังบอกอีกว่า ตนเองไม่ตรงปก อ้วนเกินไปไม่มีร้านลงให้ ต้องแยกร้านทำงานกับเพื่อนอีก 2 คน และได้มารู้ที่หลังว่าน้ำได้เงินจากเจ๊ไปคือ 140,000 บาท

ขณะที่ นางสาวซี บอกว่าตนเองและพี่สาว ถูกซื้อตัวไปเข้าสังกัดแห่งหนึ่ง ตอนนั้นก็ไม่รู้เรื่อง เพราะฟังไม่เข้าใจ ได้ยินอีกที คือให้ไปทำงานที่ตึก ในช่วงแรกๆ ก็ทำงานร้านคาราโอกะทั่วไป แต่หลังๆ ก็ให้พวกตนขายบริการ แม้จะไม่ยินยอม แต่เลือกไม่ได้ เนื่องจากมีทหารยืนคุม ยืนขู่ทุกที่ ทำให้ต้องยินยอมทุกอย่าง มือถือใช้งานได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ก็ไม่ถูกยึด จึงทำตัวเป็นปกติทุกอย่าง

3 สาวไทยเผยชีวิตในขุมนรก ถูกหลอกให้ค้ากามที่เมืองล็อกกิ่ง หนักสุดถึงขั้นบังคับเสพยา
ขณะที่ เอ เล่าต่อว่า ตนเองต้องอยู่ที่โรงแรมคนเดียวหลังจากแยกกับเพื่อนทั้งสองคน เจ๊บอกจะหาร้านลงให้ แต่ต้องรอและถูกชวนขึ้นไปเล่นห้องข้างบนโรงแรม บอกให้ไปฝึกดูงาน พอขึ้นไปถูกสั่งให้ดมยา แม้จะบอกว่าดมไม่เป็น ก็ส่งน้ำอะไรไม่รู้มาให้ตนดื่ม ตนจึงขอกลับลงมารอข้างล่าง และอยู่รออยู่ในห้องนั้นอีก 4 วัน ถึงได้มีข้าวกล่องมาส่งให้กิน

ในตอนนั้นตนไม่ไหวแล้ว จึงติดต่อกลับไปหาน้ำ ได้รับคำตอบว่า จะส่งให้ตนเองไปพักอยู่กับบีและซีที่ร้านคาราโอเกะ ก่อนบอกกับตนว่า บีและซีเป็นหนี้อีก 250,000 อีก 1 สัปดาห์แยกตนเองก็ได้ไปอยู่อีกร้านหนึ่ง ซึ่งต้องทำงานขายบริการโดยตรง และใช้ชีวิตแบบนั้นเดือนกว่า จึงได้ตกลงคุยกันกับเพื่อนอีก 2 คนว่าอยู่ไม่ได้แล้ว ทรมาน หนักสุดคือไม่ให้กินข้าว บังคับให้ขายบริการ และเสพยา และได้ติดต่อขอความช่วยเหลือจากที่บ้านอย่างจริงจัง หลังจากได้พูดคุยกับครอบครัวตลอดตั้งแต่มาทำงาน แต่หลังจากคุยเสร็จก็ลบข้อมูลทิ้งทุกอย่าง เนื่องจากกลัวจับได้ เพราะในตอนเซ็นสัญญาเคยถูกขู่ไว้ว่าจะทำร้าย จากนั้นครอบครัวก็รวบรวมข้อมูลไปขอความช่วยเหลือไปที่มูลนิธิปวีณา

3 สาวไทยเผยชีวิตในขุมนรก ถูกหลอกให้ค้ากามที่เมืองล็อกกิ่ง หนักสุดถึงขั้นบังคับเสพยา
คุณปวีณา หงสกุล เผยว่า คุณพ่อของเหยื่อได้เดินทางมามูลนิธิ และติดต่อกรมการกงสุล กระทรวงต่างประเทศ ก่อนจะะส่งเรื่องไปสถานทูตไทยในเมียนมา แต่เนื่องจากเป็นเป็นเขตปกครองพิเศษ เข้าไปยากมาก แม้แต่ทหารเมียนมาเองก็เข้าออกลำบาก จึงได้ติดต่อกับผู้การทหารม้าที่เชียงราย และบินไปพบและประชุมกันเพื่อช่วยเหลือ จากนั้นก็ส่งหนังสือในนามมูลนิธิ เพื่อติดต่อขอความช่วยเหลือไปที่เมียนมา และวิดีโอคอลประชุมกันกับตัวแทนทหารเมียนมาตลอดเวลา

ในระหว่างที่ทั้งสามคนรอการช่วยเหลือจากทหารเมียนมา ก็พากันหลบหนีออกจากที่ทำงาน ไปหลบซ่อนตัวที่ห้องพักแห่งหนึ่ง น้ำได้ส่งข้อความมาต่อว่าและทวงเงิน เนื่องจากเจ๊ได้ทักไปทวงเงินกับน้ำ และบอกว่าพวกตนหลบหนีออกมาแล้ว อีกทั้งยังขู่ว่า ถ้าตามเจอจะส่งทหารมาทำร้าย ถ้าเจอที่นี่ก็จะกระทืบ แต่ถ้าเจอที่ไทยก็จะกระทืบเช่นเดียวกัน และจะทำร้ายคนที่มาช่วยเหลือด้วย

ในตอนแรกทั้งสามก็กลัว เพราะยังอยู่ในพื้นที่เมียนมา แต่ตอนอยู่ไทยไม่กังวล เพราะปลอดภัยแล้ว ในระหว่างรอช่วยเหลือยืนยันว่าทรมานมาก มาม่าห่อเดียวกินกัน 3 คนทุกคน แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่ก็ประสานงานจนรับตัวได้ แต่ในระหว่างนั้นก็ต้องได้รับโทษเนื่องจากลักลอบเข้าไปในพื้นที่ ติดคุก 3 อาทิตย์ ลักษณะคล้ายคุกขี้ไก่ เป็นคุกไม้มีแต่ฝุ่น พันด้วยลวดหนาม แต่สุดท้ายก็กลับไทยได้อย่างปลอดภัย

ในส่วนของคดีความ นางสาวปวีณา หงสกุล เผยต่อว่า เรื่องตรงนี้ยังไม่จบ หลังจากนี้ต้องส่งให้หน่วยสอบสวนขยายผลการค้ามนุษย์ต่อไป และเหลืออีก 2 คนกำลังเดินทางกลับมา สุดท้ายผู้เสียหายทั้งสามฝากถึงคนที่กำลังมองหางานว่า มันไม่สวยงามอย่างที่คิดไว้ หากจะไปก็ใช้สตินิดนึง แนะว่าอยู่ที่ไทยดีกว่า ถ้าไปแล้วต้องอดข้าวอดน้ำ แน่นอนว่าอยู่ที่ไทยดีกว่า

อย่างไรก็ตาม สามารถติดตามรายการ “เปิดปากกับภาคภูมิ” พร้อมกันได้ทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 15.30 น. เป็นต้นไป ได้ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32.

ขอบคุณแหล่งที่มา : thairath.co.th


ติดตามข่าวสารได้ที่ have-a-look.net





Power by : ATOMYMAXSITE 2.9
โรงเรียนบ้านกลาง นาแห้ว หมู่8 ตำบลนาพึง อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย สพป.ลย3
webmaster โรงเรียนบ้านกลาง นาแห้ว หมู่8 ตำบลนาพึง อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย สพป.ลย3@2010-2011 under GNU General Public License Edit&Applied by Chudsagorn phikulthong