[x] ปิดหน้าต่างนี้
Powered by ATOMYMAXSITE 2.9
โรงเรียนบ้านกลาง นาแห้ว
ระบบสมาชิก
Username :
Password :
[ สมัครสมาชิก ] | [ ลืมรหัสผ่าน ]
สมาชิกทั้งหมด 3 คน
สมาชิกที่กำลังออนไลน์ 0 คน
เมนูหลัก
link banner
e-Learning

ข้อมูลผู้บริหาร

   คุณคิดว่าเวปนี้เป็นอย่างไร




หมวดหมู่ blog
ค้นหาจาก google

 

  

   เว็บบอร์ด >> ห้องนั่งเล่น >>
เคล็ด(ไม่)ลับ!! หัวหอมพืชผักสวนครัวที่มีดีต่อสุขภาพในหลายด้าน  VIEW : 459    
โดย ตะวัน

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 17
ตอบแล้ว :
ระดับ : 3
Exp : 36%
ออฟไลน์ :
IP : xxx

 
เมื่อ : ศุกร์ ที่ 16 เดือน กรกฏาคม พ.ศ.2564 เวลา 23:01:48    ปักหมุดและแบ่งปัน

หากจะพูดถึงพืชผักสมันไพรไทยก็มีมากมายหลากหลายอย่าง แต่วันนี้เรามีพืชผักที่เรียกว่า “หัวหอม” พืชในตระกูลเดียวกับกระเทียมซึ่งได้รับความนิยม โดยทั้งหอมแดงหรือหอมใหญ่ต่างก็เป็นวัตถุดิบสำคัญในการเพิ่มรสชาติและกลิ่นหอมของอาหารที่ต้องมีคู่ครัว และนอกจากประโยชน์ในการนำมาทำอาหารแล้ว หัวหอมยังอาจดีต่อสุขภาพ เพราะประกอบด้วยสารอาหารครบถ้วน 

คุณค่าทางโภชนาการของหัวหอมชนิดต่างๆ จากการวิจัยหนึ่งที่เปรียบเทียบสารอาหารที่พบในหัวหอมกว่า 10 ชนิด ปรากฏว่าหอมแดงมีสารประกอบฟีนอลิก (Phenolic) และมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระสูงสุด สารที่จะชะลอการเกิดความเสียหายภายในร่างกาย ส่วนสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) นั้นพบมากสุดในหัวหอมใหญ่ โดยเป็นสารที่คาดว่าอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือด และต้านการอักเสบได้ ซึ่งที่บริเวณเปลือกรอบนอกของหัวหอมจะมีสารนี้เข้มข้นที่สุด วันนี้เรามีสรรพคุณของหัวหอมที่ช่วยในเรื่องสุขภาพมาฝากค่ะ 

  • ป้องกันและลดรอยแผลเป็น เป็นสรรพคุณเดียวของหัวหอมที่นับว่าในปัจจุบันมีหลักฐานการวิจัยสนับสนุนอย่างค่อนข้างน่าเชื่อถือ เนื่องจากการศึกษาส่วนใหญ่พบว่าการใช้สารสกัดจากหัวหอมอาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการรักษาแผลเป็น โดยคาดว่าเป็นเพราะคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ ซึ่งมีกลไกช่วยลดกระบวนการสร้างเนื้อเยื่อที่จะทำให้มีแผลเป็นตามมาได้

  • แก้ปัญหาผมร่วงเป็นหย่อมๆ ปัญหาเส้นผมหลุดร่วงอันเกิดจากการที่ระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติที่แม้จะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว แต่ก็สร้างความไม่มั่นใจให้กับผู้ป่วย หัวหอมจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับเร่งการงอกของเส้นผมที่ง่ายและได้ผลหรือไม่นั้น จากการวิจัยโดยให้ผู้ป่วย 23 คนใช้น้ำคั้นจากหัวหอมดิบทาศีรษะวันละ 2 ครั้ง ในช่วง 2 เดือน ในขณะที่ผู้ป่วยอีก 15 คน ใช้น้ำประปา พบว่าหลังจากใช้น้ำหัวหอมดิบทาหนังศีรษะนาน 4 สัปดาห์ พบผลลัพธ์การรักษาที่ดีใน 73.9% ของผู้ป่วยทั้งหมด และเพิ่มเป็น 86.9% เมื่อผ่านไป 6 เดือน และเมื่อเทียบกันระหว่างชายและหญิง น้ำจากหัวหอมให้ผลการรักษาผู้ป่วยชาย (คิดเป็น 93.7%) ดีกว่าผู้ป่วยหญิง (คิดเป็น 71.4%) อย่างมีนัยสำคัญ แต่ก็ยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมที่สามารถยืนยันประสิทธิภาพและความปลอดภัยได้ชัดเจนกว่านี้ ผู้ที่ทดลองใช้กับตัวเองควรใช้อย่างเหมาะสมเท่านั้น
  • ป้องกันและลดรอยแผลเป็น เป็นสรรพคุณเดียวของหัวหอมที่นับว่าในปัจจุบันมีหลักฐานการวิจัยสนับสนุนอย่างค่อนข้างน่าเชื่อถือ เนื่องจากการศึกษาส่วนใหญ่พบว่าการใช้สารสกัดจากหัวหอมอาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการรักษาแผลเป็น โดยคาดว่าเป็นเพราะคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ ซึ่งมีกลไกช่วยลดกระบวนการสร้างเนื้อเยื่อที่จะทำให้มีแผลเป็นตามมาได้
    • แก้ปัญหาผมร่วงเป็นหย่อมๆ ปัญหาเส้นผมหลุดร่วงอันเกิดจากการที่ระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติที่แม้จะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว แต่ก็สร้างความไม่มั่นใจให้กับผู้ป่วย หัวหอมจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับเร่งการงอกของเส้นผมที่ง่ายและได้ผลหรือไม่นั้น จากการวิจัยโดยให้ผู้ป่วย 23 คนใช้น้ำคั้นจากหัวหอมดิบทาศีรษะวันละ 2 ครั้ง ในช่วง 2 เดือน ในขณะที่ผู้ป่วยอีก 15 คน ใช้น้ำประปา พบว่าหลังจากใช้น้ำหัวหอมดิบทาหนังศีรษะนาน 4 สัปดาห์ พบผลลัพธ์การรักษาที่ดีใน 73.9% ของผู้ป่วยทั้งหมด และเพิ่มเป็น 86.9% เมื่อผ่านไป 6 เดือน และเมื่อเทียบกันระหว่างชายและหญิง น้ำจากหัวหอมให้ผลการรักษาผู้ป่วยชาย (คิดเป็น 93.7%) ดีกว่าผู้ป่วยหญิง (คิดเป็น 71.4%) อย่างมีนัยสำคัญ แต่ก็ยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมที่สามารถยืนยันประสิทธิภาพและความปลอดภัยได้ชัดเจนกว่านี้ ผู้ที่ทดลองใช้กับตัวเองควรใช้อย่างเหมาะสมเท่านั้น
    • แก้หวัด คัดจมูก ตัวช่วยยอดนิยมในการรักษาอาการคัดจมูกอันเกิดโรคหวัด โดยมักแนะนำให้ฝานหัวหอมเป็นแผ่นบาง ๆ หรือทุบพอแตกวางไว้ใกล้ศีรษะขณะนอนหลับ ซึ่งในทางทฤษฎีนั้นมีการคาดว่าสารซัลเฟอร์ในหัวหอมจะช่วยขจัดน้ำมูกและของเหลวออกจากร่างกาย ทำให้หายใจคล่อง
      • รักษาอาการจากโรคหืด หัวหอมเป็นหนึ่งในการรักษาทางเลือกยอดนิยมที่เชื่อกัน มีทั้งใช้หัวหอมรักษาอาการไอหรือขยายหลอดลม ซึ่งเป็นอาการจากโรคหืด แต่ในด้านหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่จะช่วยยืนยันได้ยังมีน้อยมาก ไม่มีการวิจัยที่น่าเชื่อถือในคนอย่างชัดเจน และยังการคาดการณ์ว่าผู้ป่วยโรคหืดประมาณ 5-10 เปอร์เซ็นต์อาจมีอาการแพ้ต่อยาและอาหารบางชนิดที่มีสารซัลเฟอร์ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือหัวหอม การจะทดลองใช้หัวหอมเพื่อรักษาโรคนี้จึงควรต้องระมัดระวังความปลอดภัยด้วย
      • https://doodido.com/%e0%b9%80%e0%b8%84%e0%b8%a5%e0%b9%87%e0%b8%94%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b9%88%e0%b8%a5%e0%b8%b1%e0%b8%9a-%e0%b8%ab%e0%b8%b1%e0%b8%a7%e0%b8%ab%e0%b8%ad%e0%b8%a1%e0%b8%9e%e0%b8%b7%e0%b8%8a%e0%b8%9c/




Power by : ATOMYMAXSITE 2.9
โรงเรียนบ้านกลาง นาแห้ว หมู่8 ตำบลนาพึง อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย สพป.ลย3
webmaster โรงเรียนบ้านกลาง นาแห้ว หมู่8 ตำบลนาพึง อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย สพป.ลย3@2010-2011 under GNU General Public License Edit&Applied by Chudsagorn phikulthong