[x] ปิดหน้าต่างนี้
Powered by ATOMYMAXSITE 2.9
โรงเรียนบ้านกลาง นาแห้ว
ระบบสมาชิก
Username :
Password :
[ สมัครสมาชิก ] | [ ลืมรหัสผ่าน ]
สมาชิกทั้งหมด 3 คน
สมาชิกที่กำลังออนไลน์ 0 คน
เมนูหลัก
link banner
e-Learning

ข้อมูลผู้บริหาร

   คุณคิดว่าเวปนี้เป็นอย่างไร




หมวดหมู่ blog
ค้นหาจาก google

 

  

   เว็บบอร์ด >> ห้องนั่งเล่น >>
การต่อสู้ของ Mark Milley เพื่อหยุดยั้งทรัมป์จากการโจมตีอิหร่าน  VIEW : 444    
โดย Vdo man

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 80
ตอบแล้ว :
ระดับ : 7
Exp : 22%
ออฟไลน์ :
IP : xxx

 
เมื่อ : ศุกร์ ที่ 16 เดือน กรกฏาคม พ.ศ.2564 เวลา 14:32:39    ปักหมุดและแบ่งปัน

ครั้งสุดท้ายที่นายพลมาร์ค มิลลีย์ ประธานคณะเสนาธิการร่วมพูดคุยกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์  คือเมื่อวันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2564 หัวข้อการประชุมบ่ายวันอาทิตย์ที่ทำเนียบขาวคือโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา Milley ได้ทำงานด้วยความตื่นตระหนกในการทำประกันว่าTrumpจะไม่ก่อความขัดแย้งทางทหารกับอิหร่าน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์ที่ไร้ความปราณีของเขาเพื่อล้มล้างผลการเลือกตั้งในปี 2020 และคงอยู่ในอำนาจ ประธานแอบกลัวว่าทรัมป์จะยืนกรานที่จะโจมตีผลประโยชน์ของอิหร่านซึ่งอาจก่อให้เกิดสงครามเต็มรูปแบบ


มี “สถานการณ์ฝันร้าย” สองสถานการณ์ มิลลี่บอกกับผู้ร่วมงานในช่วงหลังการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ซึ่งส่งผลให้ทรัมป์พ่ายแพ้แต่ไม่ยอมเสียสัมปทาน อย่างแรกคือทรัมป์จะพยายาม “ใช้กองทัพตามท้องถนนของอเมริกาเพื่อป้องกัน การโอนอำนาจโดยสันติโดยชอบด้วยกฎหมาย” อีกกรณีหนึ่งคือวิกฤตภายนอกที่เกี่ยวข้องกับอิหร่าน ตอนนั้นไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ แต่ Milley เชื่อว่าประเทศชาติใกล้เข้ามาแล้ว—“ใกล้มาก”—เพื่อขัดแย้งกับสาธารณรัฐอิสลาม มิลลี่กล่าวว่าช่วงหลังการเลือกตั้งที่อันตรายนี้เป็นเพราะทรัมป์ที่โอบกอด " บิ๊กโกหก " ของทรัมป์ที่การเลือกตั้งถูกขโมยไปจากเขา Milley กลัวว่ามันจะเป็น “ช่วงเวลา Reichstag” ของทรัมป์ ซึ่งเหมือนกับอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ในปี 1933 เขาจะก่อวิกฤตเพื่อเข้ามาช่วยเหลือและช่วยเหลือประเทศชาติให้รอดพ้นจากวิกฤตนี้

เพิ่มเติม:  เว็บพนัน     asia999   slotpg 





Power by : ATOMYMAXSITE 2.9
โรงเรียนบ้านกลาง นาแห้ว หมู่8 ตำบลนาพึง อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย สพป.ลย3
webmaster โรงเรียนบ้านกลาง นาแห้ว หมู่8 ตำบลนาพึง อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย สพป.ลย3@2010-2011 under GNU General Public License Edit&Applied by Chudsagorn phikulthong