กอบศักดิ์ เตือน ปี 66 เศรษฐกิจโลกยังถดถอย แม้ไทยพอไปได้ แต่ต้องพร้อมรับมือ

กอบศักดิ์ เตือน ปี 66 เศรษฐกิจโลกยังถดถอย แต่เศรษฐกิจไทยพอไปได้ หวังการท่องเที่ยวช่วยฟื้น เตือนภาคธุรกิจและประชาชนต้องพร้อมรับมือ ต้องมีสภาพคล่องให้มาก

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ และเลขานุการบริษัท ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจโลกในปี 66 จะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย หรือ Recession ทั้งนี้ เศรษฐกิจปี 65 ถือเป็นจุดเริ่มต้นของเศรษฐกิจปี 66

โดยในปีนี้เราจะเห็นได้ว่า ข่าวนายกอังกฤษประกาศลาออกจากตำแหน่ง ค่าเงินเยนญี่ปุ่นอ่อนค่าหนัก จนทำให้ธนาคารกลางญี่ปุ่นตัดสินใจแทรกแซงค่าเงินเย็นในรอบ 20 ปี นอกจากนี้ที่ผ่านมาเราจะเห็นข่าวร้าย เช่น เครดิตสวิสที่เตรียมปรับโครงสร้างเพราะขาดทุนหนัก

ส่วนหุ้น Amazon, Alphabet และ Meta ก็ตกด้วยเช่นกัน สำหรับประเทศไทยนั้นเศรษฐกิจยังพอไปได้ ประคองตัวพ้นภัยในปีหน้าได้ถ้าหากประเทศไทยเตรียมตัวให้ดี เตรียมการณ์ให้ดี วางแผนรับมือปัญหาที่คาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้น

“ปี 2566 นี้ภาคธุรกิจต้องเตรียมสภาพคล่องให้มากที่สุด เพราะความท้าทายจะอยู่ถึงปีกว่าๆ อะไรที่เป็น cost ที่ไม่จำเป็น ก็งดไปก่อน โครงการอะไรรอได้ก็ให้รอไปก่อน เพราะปีหน้าวิกฤติเศรษฐกิจในหลายประเทศ เช่น สหรัฐฯ ต้องดูว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จะแย่แค่ไหน เพราะดอกเบี้ยขึ้นเยอะมาก และตลาดอสังหาฯ อยู่ในจีดีพีของสหรัฐฯ ถึง 20%”

นายกอบศักดิ์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่ต้องจับตามองอีกคือ ประเทศจีน ที่ผ่านมาจีนไม่เคยมีวิกฤติ ซึ่งในทางทฤษฎีเป็นไปไม่ได้ ก็หมายความว่า เขากำลังมีปัญหาสะสมอยู่ ถ้าอสังหาริมทรัพย์จีนไม่ดี แปลว่าเศรษฐกิจจีนโตไม่ค่อยได้ สินค้าที่ผลิตเป็นจำนวนมาก ซึ่งสินค้าเหล่านี้ผลิตออกมาเป็นจำนวนมาก และผลิตขึ้นมาอยู่บนพื้นฐานว่าเศรษฐกิจจะเติบโต 5-6% นั่นก็หมายความว่าสินค้าจีนจะขายไม่ได้

หากสินค้าขายไม่ได้จีนก็จะส่งออกไปต่างประเทศทั่วโลก ซึ่งนั่นก็หมายความว่าผู้ประกอบการของไทยก็ต้องเตรียมการณ์รับมือและต่อสู้กับสินค้าจีนราคาถูกที่จะออกมาตีตลาด ขณะที่จีนก็ลดค่าเงินหยวนอีกด้วย

นอกจากนี้ในปี 66 สิ่งที่น่ากังวลใจเราเพิ่งออกจากโควิด ท่ีผ่านมาเราใช้เงินมากพอสมควร เงินที่เคยมีก็เริ่มหมด เมื่อวิกฤติผ่านไปสภาพคล่องก็ยังไม่ถูกเติมมาก็อาจะทำให้เกิดวิฤกติอีกครั้งได้ โดยเฉพาะ SME รวมถึงประชาชนทั่วไป

อย่างไรก็ตาม หากจีนเปิดประเทศ และไทยมีการรับมือเตรียมการณ์เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาในประเทศก็อาจจะช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น ประกอบค่าเงินบาทอ่อนจะช่วยให้ภาคเกษตร ท่องเที่ยว และภาคการส่งออกดีขึ้น จะช่วยให้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยดีขึ้น

ส่วนอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ GDP ไทยในปี 66 เราคาดว่าจะขยายตัวได้ 2-3% จากปี 65 ที่ 3-4% ปัจจัยสนับสนุนมาจากภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะหากจีนเปิดประเทศซึ่งถือเป็นความหวังสำคัญ ส่วนภาคการส่งออกนั้นอาจจะชะลอตัวเล็กน้อย แต่ไม่ถึงกับติดลบ.

ขอบคุณแหล่งที่มา : thairath.co.th

ติดตามข่าวสารได้ที่ have-a-look.net