[x] ปิดหน้าต่างนี้
Powered by ATOMYMAXSITE 2.9
โรงเรียนบ้านกลาง นาแห้ว
ระบบสมาชิก
Username :
Password :
[ สมัครสมาชิก ] | [ ลืมรหัสผ่าน ]
สมาชิกทั้งหมด 3 คน
สมาชิกที่กำลังออนไลน์ 0 คน
เมนูหลัก
link banner
e-Learning

ข้อมูลผู้บริหาร
หมวดหมู่ blog
ค้นหาจาก google

 

  

   เว็บบอร์ด >> ห้องนั่งเล่น >>
"อุจจาระตกค้างในท้อง" ปัญหาที่ทำเด็กร้องตลอดเวลา  VIEW : 177    
โดย

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 377
ตอบแล้ว :
ระดับ : 15
Exp : 72%
ออฟไลน์ :
IP : xxx

 
เมื่อ : ศุกร์ ที่ 26 เดือน สิงหาคม พ.ศ.2565 เวลา 02:12:21    ปักหมุดและแบ่งปัน

  • ปัญหาอุจจาระตกค้างในเด็ก อาจเกิดจากการเคี้ยวอาหารไม่ละเอียด อาหารจึงไม่ย่อย กินอาหารไม่ถูกสุขลักษณะ ทำให้อุจจาระแข็ง ขับถ่ายไม่ออก มีปัญหาลำไส้ มีพยาธิ หรือเด็กที่ไม่ชอบถ่ายอุจจาระในตอนเช้า หรือชอบกลั้นอุจจาระ 
  • ควรให้เด็กทานผัก ผลไม้ เพื่อเพิ่มกากใย กินสารเหลวและน้ำมากๆ หรือโยเกิร์ต นมเปรี้ยว ให้ได้จุลินทรีย์สุขภาพ หลังรับประทานอาหารให้เด็กขยับร่างกายเล็กน้อย เพื่อให้ลำไส้ได้บีบตัว และไม่ควรกลั้นอุจจาระ  
  • ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการขับถ่ายเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะการขับถ่ายจะส่งผลกระทบต่อระบบต่างๆ ในร่างกาย หากลูกมีอาการ ปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องผูกเรื้อรัง ถ่ายมีเลือดปนในอุจจาระ ร้องงอแง อาเจียน นอนไม่หลับ อย่าปล่อยไว้ หรือซื้อยามาให้เด็กทานเอง ควรมาพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษา 

เรื่องการขับถ่ายของเด็กๆ เป็นปัญหาอันดับต้นๆ ที่คุณพ่อคุณแม่มักจะพบอยู่ตลอด โดยเฉพาะเด็ก 2 ขวบปีแรก ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดท้อง ท้องอืด ท้องผูก ถ่ายเหลว ถ่ายแข็ง ในเด็กบางคนอาจเป็นแบบไม่ทราบสาเหตุ ตรวจไม่พบโรค อาการที่น่าเป็นห่วงอย่างหนึ่งคือ อุจจาระตกค้าง หรืออุจจาระค้างท้อง  

อุจจาระตกค้างในลำไส้ คืออะไร

ศ.พญ. บุษบา วิวัฒน์เวคิน กุมารแพทย์โรคทางเดินอาหารและตับ รพ.เด็กสมิติเวช ระบุว่า อุจจาระตกค้างในลำไส้ หมายถึงการที่เด็กไม่สามารถขับถ่ายอุจจาระออกมาได้หมด ทำให้รำคาญ เจ็บ ลำบากในการใช้ชีวิต และหากมีอุจจาระตกค้างอยู่ตามผนังลำไส้นานๆ ก็จะให้อุจจาระนั้นรวมตัวกันติดแน่น มีขนาดใหญ่ขึ้น หลุดออกไม่ได้ง่ายๆ กลุ่มอุจจาระใหม่ก็ไม่สามารถดันกลุ่มอุจจาระเก่า และถึงแม้จะดันของเก่าออกมาได้ก็ยังไม่สามารถช่วยดันอุจจาระเก่าที่ติดแน่นออกจากลำไส้ได้ทั้งหมด ซึ่งอาการนี้จะส่งผลต่อร่างกายอย่างมาก 

สาเหตุหรือความเสี่ยง ที่อาจส่งผลให้เด็กมีอุจจาระตกค้าง

  • กินอาหารชิ้นใหญ่ ทำให้เคี้ยวอาหารไม่ละเอียด อาหารย่อยไม่ได้ในลำไส้ 
  • กินอาหารที่มีกากใยน้อย ทำให้อุจจาระแข็ง ขับถ่ายไม่ออก 
  • อาจมีการติดเชื้อพยาธิ หรือเชื้อรา ที่ทำให้การดูดซึมผิดปกติ 
  • การที่เด็กไม่ได้ถ่ายอุจจาระในตอนเช้า ช่วงเวลา 5.00-7.00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่ร่างกายจะขับอุจจาระได้ดี 
  • เด็กบางคนมีการผ่าตัดช่องท้อง จนลำไส้เป็นพังผืด ซึ่งจะทำให้อุจจาระไปตกค้างตามซอกหลืบ 
  • เด็กทีมีการกลั้นอุจจาระบ่อยๆ จากความกลัวการขับถ่าย เช่น มีแผลที่รูทวารหนัก โดนสวนอุจจาระบ่อยๆ  
  • เมื่อเด็กท้องผูกนานๆ จะมีลำไส้ยืด พอง มีความยาวของลำไส้มากกว่าปกติ เพราะเมื่อขนาดลำไส้ยาว พับไปมาในช่องท้อง จะทำให้การลำเลียงของอุจจาระนานขึ้น เกิดการตกค้างระหว่างทางได้ 

อันตรายจากอุจจาระตกค้างในลำไส้เด็ก

เมื่อมีอุจจาระตกค้างเพิ่มมากขึ้น จะทำให้อุจจาระที่ตกค้างไปกดดัน ต่อกระเพาะอาหาร และไปกดทับกระเพาะปัสสาวะซึ่งจะทำให้เกิดอาการต่างๆ ที่ผิดปกติต่อไป เช่น 

  • เด็กปวดท้อง จากอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือท้องผูกเรื้อรังเป็นเวลานาน 
  • ถ่ายอุจจาระแล้วมีเลือดปน 
  • ถ่ายอุจจาระเล็ด เปื้อน 
  • เด็กๆ อาจรู้สึกปวดเมื่อยตามร่างกาย อาทิ มีอาการปวดหลัง ปวดขา ปวดไหล่ และสะบัก 
  • มีอาการเวียนหัว อ่อนเพลีย อาเจียน เบื่ออาหาร 
  • ร้องงอแง จนไม่สามารถนอนได้ หรือหลับไม่สนิท 
  • ปัสสาวะบ่อย กระเพาะปัสสาวะอักเสบ จนถึงกรวยไตอักเสบ 

การป้องกันไม่ให้เด็กมีอุจจาระตกค้าง

  • พยายามสอนหรือจับลูกขับถ่ายให้เป็นเวลา เช่น เมื่อตื่นมาตอนเช้าก็พาไปขับถ่ายหรือนั่งส้วมให้ได้ เวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 5.00 – 7.00 น. แต่ต้องไม่ใช้วิธีกดดันให้เด็กเกิดความเครียด ไม่ควรใช้วิธีขู่ หรือการสวนอุจจาระ 
  • ให้เด็กรับประทานอาหารที่มีกากใย เช่น ผัก ผลไม้ต่างๆ 
  • ให้เด็กดื่มนมให้เพียงพอ กินสารเหลวและน้ำมากๆ เพื่อให้อุจจาระอ่อนนุ่ม 
  • อย่าให้เด็กกลั้นอุจจาระ เมื่อปวดให้รีบพาไปถ่ายทันที  
  • กินโยเกิร์ตหรือนมเปรี้ยว ให้ได้จุลินทรีย์สุขภาพ อุจจาระจะฟูนุ่ม 
  • หลังดื่มนมหรือรับประทานอาหาร พยายามช่วยให้เด็กได้มีการขยับร่างกาย เพื่อให้ลำไส้ได้มีการบีบตัว เพราะจะช่วยทำให้กระเพาะอาหารย่อยอาหารได้ง่ายขึ้น และทำให้เกิดการขับถ่ายที่คล่องขึ้น 
  • หากมีปัญหาเรื่องการขับถ่าย สามารถเลือกทานอาหารที่ช่วยให้การขับถ่ายดีขึ้น เช่น นม โยเกิร์ต ผลไม้รสเปรี้ยว ลูกพรุน น้ำส้ม น้ำมะนาว 




Power by : ATOMYMAXSITE 2.9
โรงเรียนบ้านกลาง นาแห้ว หมู่8 ตำบลนาพึง อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย สพป.ลย3
webmaster โรงเรียนบ้านกลาง นาแห้ว หมู่8 ตำบลนาพึง อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย สพป.ลย3@2010-2011 under GNU General Public License Edit&Applied by Chudsagorn phikulthong