สวยเซ็กซี่ตลอดกาลในวัย 50 กะรัต สำหรับนักแสดงมากฝีมือ แอน สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์ แถมยังเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่มีลูกสาวคนสวยอย่าง น้องนนนี่ นนลนีย์ ที่สามารถเป็นเพื่อนปรึกษาได้ทุกเรื่อง ล่าสุดเธอออกมาเปิดใจถึงความรักครั้งใหม่กับหนุ่มต่างชาติ จัสติน เทดด์ ในรายการโต๊ะหนูแหม่ม กับพิธีกรตัวแม่ หนูแหม่ม สุริวิภา แบบหมดเปลือกถึงชีวิตคู่ครั้งนี้ กว่าจะผ่านมาได้ต้องปรับจูนเข้าหากันเยอะพอสมควร
กว่าจะเซ็กซี่ได้เราก็ต้องมีแรงบันดาลใจก่อนโดยการรักษาสุขภาพ มันก็ต้องออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องแต่ไม่ถึงขั้นอดอาหาร พอเรามองว่าพออายุมากขึ้นร่างกายลีนมากไปก็ไม่โอเค แฟนไม่ชอบเค้าบอกว่ามันดูแมนไป แล้วก็อยากให้มันมีความเป็นผู้หญิงบ้าง
คุณจัสตินชอบให้ถ่ายเซ็กซี่แบบนี้ไหม?
เค้าก็ไม่ค่อยชอบเหมือนกันแต่เค้าก็ไม่ได้ห้ามเท่าไหร่ แต่พักหลังมาที่เรากลับมาเล่นละครและมีภาพลงไอจีเค้าก็จะบ่นว่าไม่ต้องมีภาพเซ็กซี่มากก็ได้ เราก็บอกว่าไม่ได้เซ็กซี่มากนะก็เท่าเดิมแต่มันก็ต้องมีนิดนึง
ได้ข่าวว่าคุณจัสตินมีปัญหาเรื่องสุขภาพเป็นอะไร?
เกี่ยวกับหลังค่ะ เค้าผ่าตัดหลังมาแล้วเค้าจะนั่งนานนานไม่ได้ สาเหตุน่าจะมาจากสมัยหนุ่มๆ ที่เค้าเล่นกีฬาเยอะพอสมควร ประจวบกลับตอนที่นั่งทำงานเค้าก็จะไม่ค่อยเปลี่ยนอิริยาบถสักเท่าไหร่ ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่สามแล้วล่าสุดก็มีผ่าสะโพก เพิ่งออกจากโรงพยาบาลมาได้ไม่ถึงสามอาทิตย์ ซึ่งเดี๋ยวเราจะพาเค้าไปพบแพทย์ที่ต่างประเทศเป็นหมอประจำ ก็ค่อนข้างกังวลใจอยู่ เพราะเขาก็อยากจะกลับมาคล่องแคล่วว่องวัยเหมือนเดิม
ซึ่งเขาก็เป็นแรงบันดาลใจให้กับเราในการออกกำลังกาย เพราะสมัยก่อนเราก็พร้อมอยู่แล้วแต่เราไม่มีกล้ามเนื้อ เค้าก็แนะนำให้เรายกเวท ซึ่งตอนแรกเราก็กังวลว่าการยกเวทมันจะทำให้กล้ามเนื้อเราใหญ่โตเกินไป แต่พอเค้าให้ความรู้และเราได้ลองออกกำลังกายมาก็เลยรู้ว่ามันทำให้เราสดชื่น และมันดีกับช่วงอายุวัยทองอย่างเราด้วย
เห็นบอกว่าคุณจัสตินคือพรหมลิขิต?
ก็เจอกันที่เมืองไทยนี่แหละค่ะ แล้วค่อยไปเจอกันที่อังกฤษอีกทีซึ่งมันไม่น่าจะเป็นไปได้ ตอนแรกเราไม่ได้ปิ๊งเลยเพราะเราไม่ได้ชอบฝรั่ง ไม่ใช่สายฝอเพราะเราก็เป็นฝออยู่แล้ว มันต่างดาวมีตาสีฟ้าคล้ายเอเลี่ยน แต่เดี๋ยวนี้ก็คือเทรนด์มันเปลี่ยนไปแล้ว ซึ่งตอนนั้นเจอครั้งแรกเค้าก็เขียนอีเมลมาจีบ ตอนแรกเราก็คิดว่าโทรคุยก็ได้ไม่จำเป็นต้องส่งอีเมลมาจีบเพราะไม่รู้จะต้องตอบยังไง ภาษาอังกฤษเราก็ไม่แข็งแรงเลยไม่รู้จะตอบเขายังไง แล้วก็ไปเจอเค้าอีกทีที่ต่างประเทศ ตอนนั้นก็ไม่มีอะไรทำไม่เข้าห้างสรรพสินค้าก็กลัวจะเสียเงิน เราก็เลยออกไปเดินตามสวนสาธารณะ
doodido.com
|